Chaos Legion งานศิลป์ที่ถูกลืม แต่บางคน ( อย่างผม ) ยังคิดถึงมันเสมอ

A Gamer's Diary - Page.1

Chaos Legion งานศิลป์ที่ถูกลืม แต่บางคน ( อย่างผม ) ยังคิดถึงมันเสมอ



นานมาแล้ว... ประมาณสิบกว่าปีก่อน ตอนผมอายุ 10 ขวบ กำลังเรียน ป.4 ผมเข้าร้านเกมครั้งแรก โดยเป็นร้าน PlayStation 2 มีเด็กๆ ทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้อง กำลังนั่งเล่นเกมอยู่เต็ม ผมก็อยากเล่นมาก แต่ไม่รู้ว่าจะเล่นเกมอะไรดี ก็ไม่รู้จักเลยสักเกมนี่เนอะ... ก็เลยบอกกับพี่เจ้าของร้าน ( ซึ่งเป็นผู้หญิงด้วย แต่ชื่อเหมือนผู้ชาย คือ 'แม็ก' ) ว่าอยากเล่นเกม 'ยิงแมลง' เพราะในอดีต ผมเคยเล่นเกมอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มันเป็นแนวยิงสัตว์ประหลาดหน้าตาคล้ายแมลง ( อันที่จริงมันน่าจะคล้ายเอเลี่ยนมากกว่า ) แต่มันเป็นเกมของเครื่อง PlayStation 1 น่ะสิ แต่ผมก็คิดว่ามันน่าจะมีใน PlayStation 2 เหมือนกัน ( ซึ่งความจริงแล้วไม่มี ) แน่นอนว่าพี่เค้าก็ไม่รู้ว่าไอ้เกมยิงแมลงที่ผมพูดถึงมันคือเกมอะไร เค้าจึงหาเกมที่ใกล้เคียงที่สุดมาให้ ซึ่งมันก็คือ... Chaos Legion นั่นเอง

ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่เกมที่ผมต้องการ แต่มันก็สนุกมาก... ได้เล่นเป็นนักดาบผมแดง สวมเสื้อคลุมเก่าๆ ขาดๆ สีขาว แต่ลายสวยมาก ควงดาบแนวแฟนตาซี ขนาดกลางๆ ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ สีเงิน ได้ออกวิ่ง ได้ออกกระโดด จากมุมมองด้านหลังของตัวละคร ไล่ฟันศัตรูหน้าตาคล้ายแมงมุม ( เออ... ก็เราบอกว่าเกมยิงแมลงนี่เนอะ ) ในชีวิตก็ไม่เคยเล่นอะไรแบบนั้นมาก่อน เคยเล่นแต่เกมตลับ มาเจอภาพกราฟิกสามมิติแบบนั้น ตัวละครเท่ห์ๆ แบบนั้น และรูปแบบการเล่นมันส์ๆ แบบนั้น ก็เลยสนุกสุดๆ ...หลังจากเล่นไปสักพัก กดปุ่มอะไรจำไม่ได้ มันปล่อยสายฟ้าสีแดงออกจากมือซ้ายได้ด้วย! โอ้โห... แค่สายฟ้าก็เท่ห์พอแล้วนะ ยังเป็นสีแดงที่ผมชอบอีก จึงกลายเป็นท่าที่โดนใจสุดๆ แต่สิ่งที่โดนใจยิ่งกว่าก็คือ มันสามารถเรียกอสูร ( ถ้าจำไม่ผิด ในเกมมันน่าจะมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Legion ) ออกมาช่วยได้ด้วย ลักษณะคล้ายปิศาจในเกมทั่วไป ตัวใหญ่ หัวคล้ายฉลาม มีแขน แต่ไม่มีขา แต่มีหาง... แถมหางยังลุกเป็นไฟอีกด้วย เคลื่อนที่ด้วยการลอยไปลอยมา รูปลักษณ์ของมันอย่างกับตัวร้ายเลยล่ะ ซึ่งความเก่งกาจของมันก็สมกับรูปลักษณ์มากๆ แค่เรียกออกมาก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว แถมดนตรีประกอบตอนเรียกมันออกมายังอลังการสุดๆ รู้สึกถึงพลังอันมหาศาลของมันเลยล่ะ... อีกอย่างที่ผมประทับใจมากๆ ก็คือ ศัตรูชนิดหนึ่งของเกม ความโหดระดับมินิบอส ลักษณะคล้ายปิศาจอีกนั่นแหละ ตัวใหญ่ สีขาวๆ เงินๆ หัวยาวคล้ายซีโนมอร์ฟในหนังเรื่อง Alien ของผู้กำกับ Ridley Scott และ James Cameron แถมยังมีหัวแบบเดียวกันตรง... 'หว่างขา' อีกด้วย ( จริงๆ นะ ไม่รู้ว่าหัวหรือ... ) ตอนนั้นผมยังขวัญอ่อน ยังกลัวพวกสัตว์ประหลาดแบบนี้ จึงเสียวสันหลังตลอดหากมีมันอยู่ในฉาก แต่ก็เป็นความกลัวที่น่าประทับใจมากๆ แถมตอนจบของด่านแรก ยังต้องสู้กับพวกมันหลายตัวพร้อมกันอีกด้วย! ( แค่ตัวเดียวก็ขนลุกจะแย่แล้ว )



เจ้าอสูรที่สามารถเรียกออกมาช่วยได้ ( น่าเกรงขามมั้ยล่ะ ฮะฮะ )

จากที่ไม่เคยเข้าร้านเกมเลย ผมก็กลายเป็นเด็กร้านเกมไปตั้งแต่นั้น ซึ่งเกมที่ผมเล่นบ่อยที่สุดก็คือ Chaos Legion นี่แหละ แต่ผมก็จะเล่นไปได้ถึงแค่ด่านสองหรือสามเท่านั้น เพราะมักจะมีเวลาแค่ 1 - 2 ชั่วโมงเท่านั้นในการเข้าร้านแต่ละครั้ง ( ก็ยังเด็กอยู่อ่ะเนอะ ) แถมยังไม่รู้จักการเซฟเกมอีกต่างหาก... ( อย่าว่าผมโง่เลยนะ...ก็ยังเด็กอ่ะ! ) อย่างไรก็ตาม หลังจากคุณพ่อซื้อคอมพิวเตอร์ให้ ผมก็ไม่ค่อยไปเล่นที่ร้านแล้ว แต่ก็ยังคิดถึงเกมนี้อยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่ง เข้าร้านขายแผ่นเกม ( บอกตามตรงเลยว่าของเถื่อน แต่ตอนนั้นผมยังไม่รู้เลยว่ามันมีของแท้กับของเถื่อนด้วย ) ผมเห็นว่ามีเกม Chaos Legion ด้วย ตอนแรกก็แปลกใจ ว่ามันมีเวอร์ชันของคอมพิวเตอร์ด้วยเหรอ? แต่ก็ซื้อมา ปรากฏว่าลงได้ เล่นได้ ก็สนุกเลยครับ... ไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาหมด แถมยังรู้จักการเซฟเกมแล้วด้วย แต่ก็เล่นไปได้ไม่ถึงไหนหรอก อย่างมากที่สุดก็ด่าน 4 ล่ะมั้ง เพราะเกมมันยาก น่าจะพอๆ กับ Devil May Cry ( ลืมบอกเลยว่า Chaos Legion กับ Devil May Cry มีรูปแบบการเล่นคล้ายกันมาก แถมยังพัฒนาโดย Capcom เหมือนกันอีกด้วย )

สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดในเกมนี้ก็คือ... อสูรที่สามารถเรียกออกมาช่วยได้ หรือ Legion นั่นเอง เจ้าอสูรที่ผมกล่าวถึงตอนแรกนั้น มันเป็นแค่อสูรตัวแรกที่ผู้เล่นจะได้ใช้งานเท่านั้น ยังมีอสูรตัวอื่นอีกถึง 6 ตัว ให้เลือกใช้งาน ซึ่งจะปลดล็อคออกมาทีละตัว ผ่านการเล่นผ่านด่านไปเรื่อยๆ อสูร 6 ตัวที่ว่าก็มี... Sword ( ใช้ดาบ ) , Arrow ( ใช้หน้าไม้ ) , Bomb ( ใช้ระเบิด ) , Shield ( ใช้โล่ ) , Claw ( ใช้กรงเล็บ ) และ Power ( ใช้พลังกาย ) ส่วนเจ้าอสูรตัวแรก มันคือ Ultimate อสูรที่ทรงพลังที่สุด แต่หลังจากจบด่านแรก มันจะถูกตัวร้ายของเกมแยกออกเป็นหลายส่วน... ทำให้ต้องตามเก็บชิ้นส่วนของมันให้ครบถึงจะใช้งานมันได้อีกครั้ง ( ซึ่งผมชอบไอเดียนี้มากเลยนะ ให้เริ่มต้นเกมด้วยพลังสุดยอด ก่อนจะยึดมันไปต่อหน้าต่อตา ทำให้ผู้เล่นมีอารมณ์ร่วมในการไล่ล่าพลังนั้นกลับมาอีกครั้ง ) ซึ่งนอกจากอสูรแต่ละตัวจะมีความสามารถต่างกันแล้ว ยังสามารถอัพค่าพลังด้านต่างๆ ให้กับมันได้อีกด้วย


ทุกวันนี้... ผมก็ยังไม่เคยเล่นมันจนจบเลย เคยหาโปรแกรมโกงมาใช้ ก็เล่นไปไกลเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่จบ เพราะหลังจากเล่นแบบโกงไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่า อยากเล่นมาถึงจุดนี้แบบฝ่าฟันความยากของเกมมามากกว่า ตอนนี้ก็ไม่ได้เล่นมานานมากๆ แล้ว แต่ก็ยังคิดถึงอยู่เสมอ ยังเปิดเพลงประกอบของมันฟังอยู่บ่อยๆ น่าเสียดายที่เกมนี้ไม่ได้รับการต่อยอด... จริงอยู่ว่ามันไม่ได้สุดๆ เท่า Devil May Cry หรือ Darksiders แต่ผมว่ามันมีอะไรในตัวดีพอ... คือระบบ Legion และการออกแบบตัวละครที่ผมกล้าพูดเลยว่า มันคืองานศิลป์ที่สวยมากๆ แถมยังมีเอกลักษณ์มากๆ อีกด้วย บรรยากาศของเกมก็ค่อนข้างลึกลับน่าค้นหา ผมจึงคิดว่า องค์ประกอบต่างๆ ของ Chaos Legion น่าจะเอามาทำใหม่ให้กลายเป็นเกมแนว Action RPG ดีๆ ได้ไม่ยากเลย น่าเสียดายจริงๆ

นี่ก็คือเรื่องราวของตัวเองที่ผมอยากนำมาเขียนเล่าครับ โดยจะเขียนออกมาเรื่อยๆ เพราะผมชอบเขียน ติดตามบทความต่อไปได้ง่ายๆ ที่แฟนเพจของผมตามลิงค์ด้านล่างครับ


Comments